13 สิ่งต้องมีในบัญชี ห้ามขาด ห้ามหาย

13 สิ่งต้องมีในบัญชี ห้ามขาด ห้ามหาย

3 รายการสำคัญที่ต้องมี เพื่อความสมบูรณ์ของบัญชี ผู้จัดทำบัญชีทุกประเภทต้องปฏิบัติตามประกาศกรมทะเบียนการค้า โดยประเด็นสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ คือเรื่องของ “ข้อความและรายการที่ต้องมีในบัญชี” แบ่งตามประเภทบัญชี ดังนี้

ปกด้านหน้าของสมุดบัญชีหรือแผ่นหน้าของบัญชี ต้องมีรายการต่อไปนี้

  1. ชื่อของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหรือชื่อทางการค้า
  2. ชนิดของบัญชี
  3. ลำดับเล่มบัญชีแต่ละชนิด โดยต้องเรียงลำดับเล่มต่อเนื่องกัน

บัญชีรายวัน บัญชีแยกประเภท และบัญชีสินค้า ต้องมีรายการต่อไปนี้

  1. ชื่อบัญชี วัน เดือน ปี เลขที่ของเอกสารประกอบการลงบัญชีและจำนวนเงิน
  2. หน้าบัญชี
  3. รายการในบัญชี

นอกจากต้องมีรายการตามที่กำหนดในข้อ 4-6 แล้ว บัญชีรายวัน บัญชีแยกประเภท และบัญชีสินค้า ต้องมีรายการเพิ่มเติมต่อไปนี้ด้วย โดยแยกตามบัญชีได้ดังนี้

บัญชีเงินสด หรือบัญชีธนาคาร (บัญชีรายวัน) เพิ่มเติม ดังนี้

  1. รายละเอียดการได้มาหรือจ่ายไป ของเงินสด เงินในธนาคาร

หากมีอยู่ในเอกสารประกอบการลงบัญชีหรือบัญชีรายวันแล้ว จะลงรายการรับ หรือจ่ายเงินประเภทเดียวกันเป็นยอดรวมก็ได้

บัญชีรายวันซื้อหรือบัญชีรายวันขาย (บัญชีรายวัน) เพิ่มเติม ดังนี้

  1. รายละเอียด ชนิด ประเภท จำนวน และราคาของสินค้า บริการที่ซื้อขาย

หากมีอยู่ในเอกสารประกอบการลงบัญชี จะลงรายการซื้อหรือขายสินค้าหรือบริการนั้น เป็นยอดรวมก็ได้

บัญชีรายวันทั่วไป (บัญชีรายวัน) เพิ่มเติม ดังนี้

  1. คำอธิบายรายการบัญชี

บัญชีแยกประเภทสินทรัพย์ หนี้สินและทุน (บัญชีแยกประเภทเพิ่มเติม ดังนี้

  1. รายละเอียดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสินทรัพย์ หนี้สินและทุน

โดยต้องอ้างชนิดของบัญชีและหน้าบัญชีหรือรหัสอ้างอิงด้วย

บัญชีแยกประเภทรายได้และค่าใช้จ่าย (บัญชีแยกประเภทเพิ่มเติม ดังนี้

  1. รายละเอียดที่มาของรายได้หรือค่าใช้จ่าย

โดยต้องอ้างชนิดของบัญชีและหน้าบัญชีหรือรหัสอ้างอิงด้วย

บัญชีแยกประเภทลูกหนี้หรือบัญชีแยกประเภทเจ้าหนี้ (บัญชีแยกประเภทเพิ่มเติม ดังนี้

  1. ชื่อลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ รายละเอียดการก่อหนี้หรือระงับหนี้

โดยต้องอ้างชนิดของบัญชีและหน้าบัญชีหรือรหัสอ้างอิงด้วย

บัญชีสินค้า เพิ่มเติม ดังนี้

  1. ชื่อ ชนิด จำนวน หน่วยนับ รายละเอียดการได้มาหรือจำหน่ายไปของสินค้า และจำนวนสินค้านั้น 


สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!!


ที่มา : www.dharmniti.co.th

 667
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราไปดูกันว่า 7 ทักษะ Soft skills ที่นักวิชาชีพตรวจสอบบัญชี (Auditor) ควรมีนั้น มีอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (Accrued Expenses) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีปัจจุบันแล้ว แต่กิจการยังไม่ได้จ่ายเงินจึงยังไม่ได้บัญทึกบัญชี เช่น ค่าแรงงานค้างจ่าย เงินเดือนค้างจ่าย ดอกเบี้ยค้างจ่าย เป็นต้น กิจการจึงจำเป็นต้องปรับปรุงบัญชีโดยเพิ่มค่าใช้จ่ายของงวดบัญชีปัจจุบันแล้วตั้งเป็นหนี้สินไว้
ใบสั่งขาย (Sale Order)หมายถึง การบันทึกรายการสั่งขายสินค้าหรือบริการ เพื่อเป็นการยืนยันการซื้อสินค้าของลูกค้า เริ่มจากเมื่อลูกค้ามีความต้องการสั่งซื้อสินค้า ฝ่ายขายจะตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เช่น จำนวนสินค้าคงเหลือ จำนวนสินค้ากำลังผลิต จำนวนสินค้าที่ถูกจอง หรือข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า เช่น ประวัติการชำระเงิน หรือวงเงินเครดิต เพื่อยืนยันว่าสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้ารายนี้ได้หรือไม่ เมื่อมีการตกลงการซื้อขาย ฝ่ายขายจะเริ่มสร้างคำสั่งขาย หากมีสินค้าอยู่ในคลังแล้ว ระบบจะเข้าไปจองสินค้าให้ แต่ถ้าสินค้าไม่พอระบบจะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการวางแผนการสั่งซื้อหรือผลิตต่อไป
ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือ ผู้สอบบัญชี CPA (Certified Public Accountant) คือ ผู้ที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพบัญชี ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพพ.ศ.2547 มีสิทธิในการตรวจสอบและรับรองบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ทุกขนาด ทุกประเภท (ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์) การสอบ CPA เป็นการทดสอบความรู้และความสามารถในด้านบัญชีและงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นที่ยอมรับและเคารพในวงกว้างในวงการบัญชีและการเงิน
แนวทางการบันทึกบัญชี ธุรกิจซื้อมาขายไป การขายสินค้าออนไลน์

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์