ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย คืออะไร เข้าใจเรื่องภาษีแบบง่ายๆ ในปี 2021

ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย คืออะไร เข้าใจเรื่องภาษีแบบง่ายๆ ในปี 2021


ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นภาษีที่คนวัยทำงานทุกคนจะต้องเคยเห็น แต่หลายคนก็อาจจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ใครต้องเป็นคนจ่าย หักเงินยังไง เมื่อไหร่ บทความชิ้นนี้จะมาแนะนำให้เรารู้จักกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย พร้อมระบุประเภทและอัตราการหักภาษีแบบที่เข้าใจง่าย

ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย คืออะไร มีไว้ทำไม

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือภาษีชนิดที่จะมีการหักทุกครั้งที่เกิดการจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่ภาษีครอบคลุม โดยผู้ที่เป็นฝ่ายจ่ายเงินจะต้องหักจากจำนวนเงินที่จะจ่ายให้ผู้รับเงิน และเอาเงินนั้นไปให้กับรัฐ ฝ่ายผู้รับก็ได้เงินแบบไม่เต็มจำนวน พร้อมกับเอกสาร “หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย” เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันเวลาทำเรื่องลดหย่อนภาษี

กรมสรรพากรระบุไว้ว่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย มีไว้เพื่อลดภาระผู้เสียภาษี จะได้ไม่ต้องเสียภาษีทีเดียวเยอะๆ ตอนท้ายปี และในอีกแง่ก็เป็นภาษีที่ทำให้มีเงินเข้ารัฐมากขึ้น เพราะผู้รับเงินหลายคนไม่สนใจขอภาษีชนิดนี้คืน

ใครบ้างที่ต้องจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย ให้สรรพากร

แน่นอนว่า ‘ผู้จ่าย’ เป็นคนทำหน้าที่หักจากเงินที่จ่ายและส่งให้สรรพากร หลายคนอาจคิดว่าผู้จ่ายที่ว่านี้หมายถึงบริษัท หรือนิติบุคคลเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว บุคคลธรรมดาก็สามารถเป็นคนจ่ายภาษีชนิดนี้ได้ ขึ้นอยู่ว่าเงินที่เราจ่ายนั้นจ่ายค่าอะไรไปครับ

ต้องหักเมื่อไหร่

เราต้องจ่ายภาษีนี้เมื่อจ่ายเงินเกิน 1,000 บาทในครั้งเดียว หรือหลายครั้งรวมกัน เช่นถ้าเราแบ่งจ่ายค่าจ้างฟรีแลนซ์ 1,000 บาท 2 ครั้ง ครั้งละ 500 บาท เราก็ต้องหักภาษีทั้งสองครั้งด้วย เพราะรวมกันแล้วเกิน 1,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องจ่ายภาษี หัก ณ ที่จ่าย และอัตราการจ่าย

อย่างที่บอกไปว่าภาษีชนิดนี้จะหักก็ต่อเมื่อเราจ่ายเงินในประเภทที่รัฐกำหนด อัตราการเสียภาษีก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทด้วยครับ ซึ่งทางรัฐมีกำหนดไว้หลายประเภท แต่หลักๆ แล้ว จะมีดังต่อไปนี้

ค่าจ้าง และเงินเดือน ต่ำสุด 0%

ค่าจ้าง และเงินเดือน ที่บริษัทจ่ายให้กับพนักงานก็ต้องผ่านการหัก ณ ที่จ่ายมาก่อนแล้ว ซึ่งอัตราการหักก็จะขึ้นอยู่กับการคำนวณ โดยการเอาเงินได้ทั้งปี หักค่าลดหย่อนต่างๆ แล้วหักตามอัตราก้าวหน้า เหมือนกับคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ ซึ่งผลอาจจะเป็นไม่หักเลย (0%) ก็ได้ ถ้าเงินได้ของพนักงานไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องหัก แต่ถ้าใครที่ไม่ถึงเกณฑ์ แต่ผู้จ่ายหักไปแล้ว ก็สามารถไปขอคืนภาษีจากรัฐได้ครับ

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.1 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือ บริษัท นิติบุคคล และบุคคลธรรมดา

จ้างทำงานหรือบริการ ต่ำสุด 0%

ข้อนี้หมายถึงการว่าจ้างบุคคลธรรมดาให้ทำอะไรบางอย่างให้ เช่น เป็นรับทำของอะไรบางอย่าง หรือจ้างให้ทำบริการ ข้อนี้ก็ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเหมือนกันนะครับ อัตราการหักจะเหมือนกับในส่วนของเงินเดือนเลย ก็คือคำนวณจากเงินได้ทั้งปี ผลก็เลยอาจจะเป็น 0% ได้เหมือนกัน การทำฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวดนี้

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.1 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือ บริษัท นิติบุคคล และบุคคลธรรมดา

จ้างรับเหมา ทำของ บริการ 3%

คนมักจะสับสนข้อนี้กับ จ้างทำงานหรือบริการ แต่ความแตกต่างก็คือใน จ้างรับเหมา ทำของ ผู้ถูกจ้างจะต้องใช้หรือไปหาอุปกรณ์ของตัวเองมาสิ่งที่ได้รับการว่าจ้าง เช่นถ้าเราได้รับการว่าจ้างให้เขียนโค้ด และผู้ว่าจ้างไม่มีอุปกรณ์เขียนโค้ดให้ ก็จะถือว่าเป็นการจ้างรับเหมาและทำของครับ

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.3 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือบริษัท และนิติบุคคล

จ้างบริการวิชาชีพอิสระ 3%

ข้อนี้หมายถึงการว่าจ้างจากการประกอบวิชาชีพอิสระ แต่รัฐไม่ได้หมายถึงฟรีแลนซ์ทุกอาชีพนะครับ ภาษีกลุ่มนี้จะครอบคลุมแค่ 6 วิชาชีพเท่านั้น ก็คือ โรคศิลปะ (กลุ่มเวชกรรม เภสัชกรรม ทันกรรม ฯลฯ) ทนายความ วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี และประณีตศิลป์ กลุ่มพวกนี้ก็จะหัก 3% ในขณะที่ถ้าเราทำฟรีแลนซ์อาชีพอื่น ก็จะหักตามหมวด จ้างทำงานหรือบริการ

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.3 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือบริษัท และนิติบุคคล

ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ 5%

ถ้าเราเช่าออฟฟิศ หรือสถานที่ที่เรามีสิทธิในการถือกุญแจ ก็จะนับเป็นอัตราภาษี 5% เพราะถ้าเป็นแค่สถานที่ที่เราไม่มีสิทธิในการถือกุญแจ เช่นการเช่าสถานที่เพื่อจัดงานสัมมนา หรือจัดอีเวนต์ กฎหมายจะถือว่ามันอยู่ในหมวดจ้างบริการ ซึ่งจะหัก 3% แทน

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.3 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือบริษัท และนิติบุคคล

ค่าโฆษณา 2%

ก็คือการจ้างให้บริษัท หรือเอเจนซี่โฆษณา มาโฆษณาให้เราผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งภาษีกลุ่มนี้จะหักแค่ 2% เท่านั้น

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.53 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือบริษัท และนิติบุคคล

ค่าขนส่ง 1%

จ่ายทุกครั้งที่มีการว่าจ้างบริการขนส่ง โดยที่ต้องเป็นบริษัทขนส่งเอกชน และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการขนส่ง เช่น บริการขนส่งสินค้าจากบริษัท โลจิสติกส์ เป็นต้น

  • กลุ่มนี้ใช้เอกสารภาษี ภ.ง.ด.53 ในการนำส่ง
  • จ่ายทุกวันที่ 7 ของเดือน หรือวันที่ 15 ถ้าเรานำส่งทางออนไลน์
  • ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีชนิดนี้คือบริษัท และนิติบุคคล

ความรู้ชุดนี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังสับสนเรื่องภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพราะถ้าไม่มีข้อมูลอะไรเลยก็คงจะไม่เข้าใจว่าแต่ละประเภทก็มีอัตราการหักภาษีที่แตกต่างกันไป และถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่นิติบุคคล เราอาจจะต้องหักภาษีชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน ทั้งผู้ประกอบการ และคนทั่วไปต่างก็ควรต้องรู้จักภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้ เพราะถ้าเราไม่รู้ เราอาจจะหักภาษีผิด ทำให้เสียเงินไปจากความไม่รู้ได้ครับ

โปรแกรมบัญชี ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์สำนักงานบัญชี นักบัญชี!


บทความโดย : www.peerpower.co.th

 987
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ค่าแรงงาน หมายถึง ค่าจ้าง (Wages) และเงินเดือน (Salaries) ที่กิจการจ่ายให้แก่ลูกจ้าง ในการจ่ายค่าจ้างอาจจ่ายเป็นรายชั่วโมง (Hourly) รายวัน (Daily) หรือตามหน่วยที่ผลิตได้ (Piecework) ส่วนเงินเดือนมักจะจ่ายเดือนละครั้ง
เชื่อว่ามีหลายคนเลยทีเดียวที่คิดว่า ภาษีที่ดินกับภาษีบำรุงท้องที่เป็นภาษีชนิดเดียวกัน เพียงแต่มีคนเรียกให้ต่างกันเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภาษีทั้งสองชนิดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และด้วยความเข้าใจที่ผิดเพี้ยนไปนี้เอง ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าตนเองต้องจ่ายภาษีอะไรกันแน่ ยิ่งถ้าหากเป็นเจ้าของที่ดิน นายหน้า และเหล่านักอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งต้องแยกให้ออกว่า ระหว่างภาษีทั้งสองประเภทต่างกันอย่างไร ที่สำคัญคือ ภาษีเหล่านี้ใน พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่
ป้ายที่ต้องเสียภาษีได้แก่ป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมาย ที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่น เพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึก หรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ดังนั้นลักษณะของป้ายที่เสียภาษี ? ก็คงเป็นป้ายที่เกี่ยวกับการค้าหรือกิจการหารายได้ต่างๆนั้นเอง
เจ้าของกิจการทั้งที่เริ่มใหม่และทำมาระยะหนึ่งแล้ว คงต้องมีสำนักงานบัญชี คู่ใจเอาไว้จัดการเรื่องเอกสาร กฏหมายและปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนภาษี วันนี้เราเลยมีวิธีเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้ใช้ในการ เลือกสำนักงานบัญชีให้ดีและเหมาะสมเพื่อให้ให้เป็น ปัญหา มากกว่าตัวช่วยขอธุรกิจเราในภายหลัง
การปิดงบการเงินแบบ normal อาจจะเป็นเรื่องไม่ normal อีกต่อไป ตั้งแต่มี Covid-19 เข้ามา แทบจะทุกธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ และแน่นอนว่าผลกระทบเหล่านี้ย่อมต้องสะท้อนออกมาในงบการเงินอย่างถูกต้องและเหมาะสมเช่นกัน ก่อนจะปิดบัญชีปีนี้มีจุดเสี่ยงสำคัญอะไรในงบการเงินบ้างที่นักบัญชีต้องเรียนรู้ เราขออาสาพาทุกท่านมาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันเลย ในบทความนี้ค่ะ
ในปัจจุบันผู้ที่สามารถทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ในฐานะผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีได้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์