โปรแกรม ERP เกี่ยวข้องกับงานบัญชีอย่างไร

โปรแกรม ERP เกี่ยวข้องกับงานบัญชีอย่างไร


ERP
 ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning คือ ระบบที่ใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่างๆ ขององค์กร โดยจะเชื่อมโยงระบบงานต่างๆ ขององค์กรไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้เป็นระบบมาตรฐานเดียวกัน ทั้งระบบจัดซื้อ ระบบบัญชี ระบบการบริหาร และระบบการจัดการบุคคล มีจุดประสงค์เพื่อให้มีการบริหารและใช้ทรัพยากรร่วมกันภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

โปรแกรม ERP มีระบบอะไรบ้าง

ก่อนจะไปดุว่าโปรแกรม ERP เกี่ยวข้องกับงานบัญชีอย่างไร เราไปดูกันก่อนว่าหลักๆ แล้วประกอบด้วยระบบอะไรบ้าง โดยโปรแกรม ERP (Enterprise Resource Planning) ประกอบด้วยระบบหลายๆ ระบบที่เชื่อมโยงกัน โดยแต่ละระบบ ERP ก็จะมีระบบหลักๆ ที่แตกต่างกันออกไป แต่ระบบหลักๆ ของโปรแกรม ERP นั้นมีอย่างน้อย 5 ระบบ ประกอบไปด้วย

1. ระบบบัญชีและการเงิน เป็นระบบที่จะช่วยให้ทราบได้ว่าธรุกิจกำลังเดินหน้าไปในทิศทางใด ทำให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจของคุณได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จัดการงานบัญชีให้อย่างครบวงจร ทั้งเรื่องของรายรับ-รายจ่ายต่างๆ รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถตรวจสอบและรายงานผลการเงินได้ตามต้องการ รวมถึงการตรวจสอบยอดเงินสด ลูกหนี้ และเจ้าหนี้
2. ระบบบริหารคลังสินค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดการคลังสินค้า การสั่งซื้อ การรับสินค้าเข้าคลัง การเบิกสินค้า และการนับสต็อก
3. ระบบการผลิตและควบคุมคุณภาพ ในส่วนนี้ ERP จะช่วยให้สามารถวางแผนการผลิตและควบคุมคุณภาพของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจเช็คข้อมูลของสินค้าต่างๆ ภายในคลังสินค้า รวมถึงการจัดการในส่วนของการผลิต การวางแผนการผลิต การบริหารความเสี่ยง การควบคุมคุณภาพ และการส่งมอบสินค้า เป็นต้น
4. ระบบบริหารงานบุคคล นับว่าเป็นอีกหนึ่งระบบที่สำคัญในโปรแกรม ERP โดยจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับบุคลกรภายในองค์กร รวมถึงการจัดการข้อมูลพนักงาน การจัดการเงินเดือน การบริหารจัดการการลา และการบริหารเอกสาร เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรทั้งในด้านบุคคลและด้านองค์กร
5. ระบบการตลาดและขาย ช่วยให้กิจการสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การติดตามผลการขาย การสร้างและติดตามการดำเนินการโปรโมชั่นและการตลาดอื่นๆ รวมถึงช่วยให้ทีมงานขายเอง สามารถติดต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากที่กล่าวมาข้างต้น โปรแกรม ERP เป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กรที่เชื่อมต่อและรวมรวมข้อมูลทั้งหมดขององค์กรในระบบเดียวกัน โดยรวมถึงเรื่องบัญชีทางการเงินด้วย ซึ่งส่วนสำคัญของงานบัญชีทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม ERP เช่น

1. บันทึกข้อมูลบัญชี : ERP ช่วยบันทึกข้อมูลการเงินและบัญชีได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ โดยระบบจะบันทึกข้อมูลการเงินอย่างละเอียด อาทิเช่น การรับ-จ่ายเงิน การส่งเอกสารใบกำกับภาษี เป็นต้น
2. การจัดการภาษี : ERP ช่วยในการจัดการภาษี โดยระบบจะช่วยบันทึกข้อมูลภาษีอย่างถูกต้อง รวมถึงการคำนวณภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
3. การจัดการบัญชีลูกหนี้และเจ้าหนี้ : ERP ช่วยในการจัดการบัญชีลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยระบบจะช่วยบันทึกข้อมูลการรับ-จ่ายเงินของลูกหนี้และเจ้าหนี้ และช่วยในการตรวจสอบยอดเงินคงเหลือของลูกหนี้และเจ้าหนี้


สรุป

การใช้โปรแกรม ERP ช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความถูกต้อง แม่นยำ มากขึ้น โดยโปรแกรม ERP จะช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถดำเนินการตรวจสอบรายการเงินสด รายการเจ้าหนี้ รายการลูกหนี้ รายการค่าใช้จ่าย และรายการบัญชีอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถรายงานผลกำไรขาดทุน และการเงินรายได้-รายจ่ายได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ฝ่ายบัญชีสามารถควบคุมงบประมาณ รวมถึงการวางแผนการเงิน และการจัดการข้อมูลลูกค้าและธุรกรรมขายได้อย่างมีประสิทธิผลด้วย

นอกจากนี้ โปรแกรม ERP ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลการเงินและบัญชีได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งสรุปผลกำไรขาดทุนของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และให้ข้อมูลสรุปการเงินและบัญชีในรูปแบบของรายงานที่ชัดเจน ดังนั้น การใช้โปรแกรม ERP จึงช่วยให้การบัญชีทางการเงินของธุรกิจเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

จะเห็นได้ว่าการใช้โปรแกรม ERP ล้วนแล้วแต่จะส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร ทั้งในด้านการจัดการและการปรับปรุงด้านต่างๆ ให้องค์สามารถทำงานอย่างเป็นระบบและใช้ทรัพยากรขององค์กรได้อย่างคุ้มค่าแล้ว โปรแกรม ERP ยังถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน



ที่มา :
quickerpthailand.com

 436
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การบัญชีในปัจจุบันมีบทบาทสำคัญต่อทุกๆกิจการ การทำงานของบัญชีก็มีหลายส่วนงานด้วยกัน ซึ่งส่วนงานที่สำคัญของบัญชีก็คือการออกงบการเงิน ในงบการเงินประกอบด้วย 5 งบที่สำคัญคือ
มาดูในข้อแตกต่างของการจดทะเบียนที่หลายคนสงสัยว่า จดแบบบุคคลธรรมดา กับ จดแบบนิติบุคคล ต่างกันอย่างไร หรือ จะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ทำความเข้าใจก่อนเริ่มธุรกิจ "ร้านอาหาร" โดยเฉพาะถ้าเปิดเป็นร้านอาหารแบบจริงจัง หรือมีหุ้นส่วนร่วมด้วย จะเสียภาษีรูปแบบบุคคลธรรมได้หรือไม่ หรือควรจดทะเบียนบริษัท แต่ละแบบต้องทำอย่างไร ? แล้วแบบไหนใช้ประโยชน์ทางภาษีได้มากกว่ากัน
ผู้ประกอบการหลายคนอาจเข้าใจว่าการทำบัญชีนั้นมีไว้สำหรับบริษัทใหญ่หรือเพื่อร้านค้าทั่วไปอย่างเดียวเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็สามารถทำบัญชีให้กับร้านได้เหมือนกัน ซึ่งการทำบัญชีให้ร้านออนไลน์นั้นนอกจากจะเป็นการสรุปยอดขายและรายจ่ายในทุกๆ เดือนแล้ว ยังช่วยให้เรามีข้อมูลสรุปรายได้ที่ชัดเจนแน่นอนนอกเหนือจากตัวเลขที่ระบบของเว็บไซต์บันทึกเอาไว้อีกด้วย
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมาโดยมีสถานะ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
การทำบัญชีนั้น ต้องใช้เอกสารประกอบการบันทึกบัญชี ได้แก่ บิลซื้อ และบิลขาย ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะให้เอกสารตัวจริงทั้งหมดกับกับผู้ทำบัญชีหรือสำนักงานบัญชี ทั้งหมดนี้เราต้องขอคืนจากผู้ทำบัญชีทั้งหมดกลับมา
เงินปันผล (dividend) เป็นค่าตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งมักเป็นการกระจายกำไร เมื่อบริษัทได้กำไรหรือส่วนเกิน บริษัทสามารถนำไปลงทุนในธุรกิจต่อ (เรียก กำไรสะสม) หรือสามารถจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นก็ได้ บริษัทอาจสงวนกำไรหรือส่วนเกินส่วนหนึ่ง

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์