ธุรกิจซื้อมาขายไป

ธุรกิจซื้อมาขายไป


แนวทางการบันทึกบัญชี ธุรกิจซื้อมาขายไป การขายสินค้าออนไลน์

ธุรกิจซื้อมาขายไป ประกอบด้วย รายได้ และค่าใช้จ่ายรายได้ที่ต้องไปเสียภาษีมูลค่าเพิ่มคือ

1.มีการส่งสินค้า
Dr ลูกหนี้
Cr รายได้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม

2.ลูกค้าโอนเงินก่อนส่งสินค้า
Dr เงินฝากธนาคาร
Cr เงินมัดจำ
ภาษีขาย
 
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ 2 ประเภท คือ

1 ต้นทุนขาย ประกอบด้วย
1.1 สินค้าสำเร็จรูป
1.2 ค่าวัสดุหีบห่อ
1.3 ค่าขนส่ง
1.4 ค่าธรรมเนียมการนำเข้า
1.5 ค่าบริการการนำเข้า
1.6 ค่าโฆษณา facebook google
1.7 ค่าทำเวปไซด์
1.8 ค่าจ้างแรงงาน
1.9 ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย กรณีขาย ผ่าน shopee หรือ lazada
1.10.ค่าไฟฟ้า โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต

2.ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ประกอบด้วย
2.1 เงินเดือน
2.2 ค่าประกันสังคม
2.3 ค่าคอมมิชชั่น
2.4 ค่าเครื่องเขียนแบบพิมพ์
2.5 ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์สำนักงาน
2.6 ค่าน้ำประปา
2.7 ค่าวัสดุสิ้นเปลือง
2.7 ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน
2.8 ค่าธรรมเนียมธนาคาร

กรณีจ่ายค่าใช้จ่ายทุกครั้ง ควรจ่ายเป็นเช็ค หรือโอนเงินผ่านธนาคาร และเก็บสลิปไว้เป็นหลักฐาน แนบกับใบสำคัญจ่ายไว้บันทึกบัญชี

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!


ที่มา :Link

 703
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการทำงานในธุรกิจเป็นอย่างมาก และยังมีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีมาก งานบัญชีถือเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ ที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารเห็นภาพรวมของธุรกิจ ชี้วัดสุขภาพทางการเงินขององค์กร ว่ามีกำไรขาดทุนมากน้อยเพียงใด ในยุคที่การตัดสินใจของลูกค้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำบัญชีบนกระดาษที่ใช้เอกสารจำนวนมากอาจทำให้ไม่ทันความต้องการ การมีเครื่องมือในการทำบัญชีเป็นตัวช่วยให้งานบัญชี รวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมาก
ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกองค์กรธุรกิจ เป็นโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด ความเสียหาย การรั่วไหล ความสูญเปล่าหรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต และมีผลกระทบ ที่จะทำให้การดำเนินงานไม่ประสบความสำเร็จหรือบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร ที่กำหนดไว้ งานบัญชีเป็นงานที่มีความสำคัญมากของทุกองค์กร มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลบัญชีและ การเงิน ซึ่งต้องมีความถูกต้องสำหรับผู้ประกอบการนำไปใช้ในการตัดสินใจ และมีความน่าเชื่อถือ สำหรับบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามงานบัญชีก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดซึ่งจะก่อ ให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร ผู้ประกอบการจะรับมือกับความเสี่ยงในงานบัญชีได้อย่างไร บทความนี้ มีคำตอบ
การจัดการการเงินของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย, ใบเสร็จและสเปรดชีตของรายได้ จำเป็นต้องใช้วิธีต่าง ๆ ในการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งถ้าหากไม่รอบคอบอาจมีความเสี่ยงทำให้ข้อมูลทางการเงินของธุรกิจผิดพลาดได้ อย่างไรก็ตามสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยซอฟต์แวร์หรือระบบบัญชีที่ถูกต้อง โดยการจัดเตรียมไฟล์บัญชีที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการเสียภาษี ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจหันมาพึ่งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์บัญชีเพราะมันสามารถสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้มากมายดังต่อไปนี้
คำว่า “บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้” คือ ใครก็ตามที่ทำงานและมีรายได้ กรมสรรพากรกำหนดไว้ว่า หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี จะต้องทำการ “ยื่นแบบแสดงรายการภาษี” ไม่ว่ารายได้นั้นจะมาจากเงินเดือน รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน รายได้ที่เป็นปันผลจากการลงทุน ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร รายได้จากการรับจ๊อบเสริม หรือรายได้จากการทำธุรกิจต่าง ๆ โดยกำหนดการยื่นภาษีจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
ทุกครั้งที่นิติบุคคลจ่ายค่าบริการ จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายเพื่อนำส่งกรมสรรพากรไม่เกินวันที่ 7 ของเดือนถัดไป  กรณีลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย จะสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่? หลักการพิจารณาให้แยกพิจารณาทีละภาษี

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์