วงจรในการจัดทำบัญชี

วงจรในการจัดทำบัญชี



ถึงแม้ว่านักบัญชีที่จบใหม่ได้ถูกสอนให้เรียนรู้ในวงจรการจัดทำบัญชี แต่อย่างไรก็ดี ก็ควรสอนให้นักบัญชีจบใหม่เข้าใจลำดับขั้นตอนวงจรในการจัดทำบัญชีให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ซึ่งประกอบด้วยอะไรบ้าง

1. ความเข้าใจในลักษณะของธุรกิจ

ถึงการจะจัดทำบัญชีได้อย่างถูกต้องได้นั้น หัวใจสำคัญคือนักบัญชีต้องมีความเข้าใจในธุรกิจก่อน ธุรกิจที่เราจะต้องจัดทำบัญชีนั้นเป็นธุรกิจประเภทไหน ซื้อมาขายไป ผลิตสินค้า บริการ หรือธุรกิจเฉพาะ เช่นอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โรงพยาบาล แบบนี้เป็นต้น ดังนั้นเมื่อบริษัทรับพนักงานบัญชีจบใหม่เข้ามาทำงาน ทางหัวหน้างานควรแนะนำให้ความรู้ลักษณะของธุรกิจแก่พนักงานบัญชีจบใหม่

2. ความเข้าใจโครงสร้างองค์กร/ฝ่ายและแผนกต่าง ๆ

ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะงานบัญชีต้องมีการติดต่อสื่อสาร การประสานงาน ดังนั้นพนักงานบัญชีจบใหม่ เมื่อเข้ามาทำงานจึงควรเรียนรู้โครงสร้าง หน้าที่งานของแต่ละฝ่ายแต่ละแผนก และทำความเข้าใจ

3. ความเข้าใจกระบวนทำงานในกิจกรรมงานต่างๆ ของแต่ละฝ่าย/แผนก

พนักงานบัญชีจบใหม่นั้นไม่ใช่เพียงต้องเข้าใจโครงสร้างองค์กร หน้าที่งานของแต่ละฝ่ายแต่ละแผนก แต่ต้องเข้าใจถึงกระบวนการทำงานด้วย ซึ่งตรงนี้คือการเชื่อมโยงที่ต้องนำองค์ความรู้เรื่องระบบบัญชี การควบคุมภายใน เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละกระบวนการมาประยุกต์กับการทำงานนั้นเอง

4. ความเข้าใจในโปรแกรมบัญชี สนับสนุนการทำงาน

ปัจจุบันนี้กระบวนการทำงานต่าง ๆ จะถูกสนับสนุนโดยการนำเครื่องมือ Tools > โปรแกรมบัญชี มาใช้ ดังนั้นการสอนการใช้โปรแกรมบัญชีให้กับพนักงานบัญชีจบใหม่จึงจำเป็น และต้องมีการสอนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พนักงานบัญชีจบใหม่ที่จะปฏิบัติใช้งานได้อย่างถูกต้อง (ดังนั้นโปรแกรมการฝึกอบรมการใช้โปรแกรมบัญชี บริษัทควรมีการจัดการอบรมอย่างเป็นระบบ)

5. ความเข้าใจในวิธีการตรวจสอบ

นักบัญชีมีบทบาทหน้าที่สำคัญคือการตรวจสอบ ดังนั้นเรื่องที่ควรสอนนักบัญชีจบใหม่คือวิธีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่ทางบัญชีได้รับ ว่าควรตรวจสอบอย่างไร (การตรวจสอบคือ What วิธีการตรวจสอบคือ How to ) และควรสอนให้เข้าใจวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ เมื่อเข้าใจในวัตถุประสงค์การตรวจสอบ ก็เข้าใจได้ง่ายว่าควรใช้วิธีการตรวจสอบอย่างไร สำหรับวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบต้องเชื่อมั่นได้ว่าเอกสารหลักฐานที่ได้รับเพียงพอ เชื่อถือได้ ถูกต้อง ครบถ้วน และผ่านการอนุมัติจากผู้มีอำนาจนั่นเอง


สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!!



ที่มา : https://www.dst.co.th/

 314
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในวงการวิชาชีพบัญชี ประเด็นที่ค่อนข้างสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านและเปลี่ยนแปลง เนื่องจากด้านเทคโนโลยีในวงการวิชาชีพบัญชียังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง นับวันยิ่งเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลอย่างเห็นได้ชัดอย่างใน ปี 2020 แนวโน้มจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นักบัญชีจะต้องเตรียมความพร้อมและรับมืออย่างไร
ภ.พ.36 คือ แบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามประมวลรัษฎากร ใช้เมื่อได้จ่ายเงินค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร ฯ
การบริหารธุรกิจที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาที่ดีของผู้บริหารเท่านั้นแต่ยังขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและทันเวลา ซึ่งการพินิจพิจารณาของผู้บริหารจะต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ด้วยบันทึกภายใน บันทึกเกี่ยวกับการเกิดรายได้ของธุรกิจอาจจะรวมถึงข้อมูลที่ว่าใครคือผู้ที่ซื้อสินค้า ซื้อเป็นจำนวนเท่าใดทั้งในรูปของปริมาณและจำนวนเงิน และเมื่อใดที่เกิดการซื้อขึ้น สำหรับ SMEs ข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกนำไปใช้เพื่อระบุถึงลูกค้าที่สำคัญและรูปแบบการซื้อของพวกเขา 
งบเปล่า คืองบการเงินของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการ ไม่มีรายได้และค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีการซื้อขาย ซึ่งถ้าตลอดปีงบการเงินไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ผู้ประกอบการก็ยังต้องมีหน้าที่ปิดงบการเงินส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรประจำทุกปี หรือเรียกว่าการปิดงบเปล่าส่ง
เราไปดูกันว่า 7 ทักษะ Soft skills ที่นักวิชาชีพตรวจสอบบัญชี (Auditor) ควรมีนั้น มีอะไรบ้าง
การปิดบัญชี คือ การทำให้ตัวเลขในบัญชีตรงกับความเป็นจริง บัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายจะถูกปิดยอดคงเหลือ โอนไปบัญชีกำไรขาดทุน และยอดคงเหลือของบัญชีกำไรขาดทุนจะโอนไปยังบัญชีทุนพร้อมๆ กับยอดคงเหลือของบัญชี ถอนใช้ส่วนตัว  กิจการสามารถพิสูจน์ความถูกต้องของยอดคงเหลือจากบัญชีแยกประเภทได้โดยการทำงบทดลอง หลังปิดบัญชี  

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์