กองทุนฌาปนกิจ เพื่อพนักงานและครอบครัวที่บริษัทควรใส่ใจ

กองทุนฌาปนกิจ เพื่อพนักงานและครอบครัวที่บริษัทควรใส่ใจ


หนึ่งในหลาย ๆ สวัสดิการที่พนักงานบริษัท
 ควรได้รับ นอกเหนือไปจาก ค่าเบี้ยขยัน ค่าทำงานนอกเวลา ค่าทำงานนอกสถานที่ ค่าเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ค่าโทรศัพท์ ค่าคอมพิวเตอร์ ยังควรที่จะรวมไปถึงเงิน กองทุนฌาปนกิจ พนักงานและครอบครัว เงินช่วยเหลือเมื่อพนักงานหรือครอบครัวเสียชีวิต ที่จะช่วยเป็นแรงจูงใจในการสมัครเข้าทำงานในองค์กรนั่นเอง

กองทุนฌาปนกิจ คือ กองทุนช่วยเหลือพนักงานและครอบครัวกรณีเสียชีวิต ต้องบอกว่าแต่ละองค์กร จะมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ รวมไปถึงจำนวนเงินช่วยเหลือ และรูปแบบของกองทุนที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งขนาดขององค์กร รูปแบบของธุรกิจ รูปแบบของงาน หากเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือสูงตามไปด้วย โดยหากเป็นองค์กรขนาดใหญ่จะมีรูปแบบของ กองทุนฌาปนกิจ ในรูปแบบกองทุน หรือรูปแบบสหกรณ์ ขณะที่องค์กรขนาดเล็กอาจจะเป็นในรูปแบบของเงินสนับสนุน ช่วยเหลือครอบครัว

เงินช่วยเหลือจากการเสียชีวิตของพนักงาน

โดยทั่วไปแล้ว เงินช่วยเหลือจากการเสียชีวิตของพนักงาน แต่ละบริษัทจะมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือและจำนวนเงินที่แตกต่างกันออกไป แต่เบื้องต้น ประกอบไปด้วย

  • พวงหรีดเคารพศพ และค่าจัดการศพเบื้องต้น
  • การรับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพ
  • เงินช่วยเหลือ ขึ้นอยู่กับการเสียชีวิตมาจากสาเหตุใด หากเป็นอุบัติเหตุ หรือโรคภัยไข้เจ็บส่วนตัว ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือแตกต่างจากการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ หรือ เสียชีวิตจากการทำงาน พนักงานควรตรวจสอบเงื่อนไขก่อนสมัครเข้าทำงาน ซึ่งเงินช่วยเหลือนี้จะถูกส่งต่อให้กับผู้รับผลประโยชน์ เช่น สามี ภรรยา บุตร หรือบิดามารดา นั่นเอง

 

เงินช่วยเหลือจากการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว

โดยที่บุคคลในครอบครัว จะหมายถึง บุตรที่ให้กำเนิดตามกฎหมาย ไม่นับรวมบุตรบุญธรรม คู่สมรสตามกฎหมาย และบิดามารดา ลักษณะของการช่วยเหลือที่จะได้รับ

  • ค่าจัดการศพเบื้องต้น
  • เงินช่วยเหลือ
  • การรับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพ เป็นต้น

จะเห็นว่ากองทุนฌาปนกิจ เป็นสิ่งที่บริษัทควรให้ความสำคัญและรวมไว้เป็นสวัสดิการให้กับพนักงาน จะทำเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็ได้ โดยการหักจากเงินเดือนพนักงานส่วนหนึ่ง และบริษัทสมทบส่วนหนึ่ง และจ่ายคืนเต็มจำนวนพร้อมเงินสมทบ เมื่อพนักงานลาออกหรือเสียชีวิต ทุกวันนี้โรคระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้สมัครงานมองหางานที่ให้สวัสดิการครอบคลุม และตอบโจทย์ชีวิตมากที่สุด 

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!!



ที่มา : LINK

 308
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

งานที่ปรึกษาทางธุรกิจ ไม่ใช่งานที่จะมีบรรจุเป็นหลักสูตรสาขาเหมือนสาขาบัญชี สาขาคอมพิวเตอร์ งานประเภทนี้จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญหลายๆด้านรวมกัน ดังนั้นทางเดินของสายอาชีพนี้ไม่อาจจะตายตัวได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกอาชีพมีโอกาสเติบโต โดยส่วนใหญ่อาชีพนี้จะเริ่มจากการเป็นนักวิเคราะห์ ทำ Data Collection หรือ ทำ Research และ พัฒนากับทีมโปรแกรมเมอร์ ต่อมาอาจจะเป็น Consultant เพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรโดยรวม พร้อมทั้งสร้างโครงสร้างทีแข็งแกร่ง ส่วนขั้นตอนต่อๆไป คือ Senior Consultant เนื่องจากได้สะสมประสบการณ์มาแล้วได้เวลาเติบใหญ่เป็นหัวหน้าทีม จนสุดของเส้นทางคือเป็น Principal / Director นั่นเอง อาจต้องใช้เวลาซักนิดแต่ผลลัพธ์นั้นคุ้มค่าแรงกายแน่นอน ในบทความนี้จะพูดถึง คุณสมบัติของที่ปรึกษาทางธุรกิจ ที่ควรมีอะไรบ้าง
Consultant ( Business Consultant ) หรือ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ คือการที่ให้คำปรึกษาต่อธุรกิจนั้นๆ เช่น การเพิ่มยอดขาย การทำกำไร ลดรายจ่าย รวมทั้งต้องวิเคราะห์หาวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับธุรกิจอีกด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วมีเป้าหมายคือการที่ช่วยให้องค์กรพัฒนาไปในทางที่ดี ไปเติบโตเป็นธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าระบบบัญชีเงินเดือนคืออะไร ระบบจัดการบัญชีเงินเดือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการติดตามบันทึกทางการเงินของพนักงาน และดำเนินการตามขั้นตอนการบริหาร ไม่เพียงแต่ติดตามเงินเดือนของพนักงาน แต่ยังมีเรื่องของโบนัส การหักเงิน และสิ่งจูงใจที่ได้รับ
ผู้ประกันตนแต่ละมาตราที่ส่งเงินสมทบประกันสังคม สามารถคัดสำเนาการนำส่งเงินสมทบ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ โดยแต่ละมาตราจะลดหย่อนได้สูงสุดเท่าไหร่ เช็คได้ที่นี่เลย
ในยุคที่มิจฉาชีพพร้อมเข้าถึงคุณทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ข้อความ SMS รวมถึงลิงก์ต่าง ๆ ตามเว็บบราวเซอร์ในอินเทอร์เน็ต เอาว่าแค่กด 1 ครั้งชีวิตก็เป็นหนี้ได้ จะเห็นว่ากลโกงต่าง ๆ ขยับเข้ามาอยู่รอบตัวเรามากขึ้น รันทุกวงการ ไม่เว้นแม้กระทั่งประกาศงานปลอม ทำอะไรก็ต้องระแวดระวังไปหมด อันไหนจริงอันไหนปลอม เราเองในฐานะผู้สมัครงานจำต้องมีสติและวิจารณญาณที่ดีอยู่เสมอ
“ลาป่วยกรณีไหนต้องใช้ใบรับรองแพทย์” เป็นอีกหนึ่งปัญหาคาใจชาวออฟฟิศไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็ตาม เพราะไม่แน่ใจว่าลาป่วยแบบนี้ได้ไหม จะให้เอ่ยปากถามตรง ๆ ก็กลัวจะได้คำตอบว่ากฎระเบียบของบริษัทเป็นแบบนี้ ต้องปฏิบัติตาม แม้ว่าในใจจะแอบสงสัยอยู่ลึกๆ ว่า สวัสดิการวันลาที่บริษัทให้มันแฟร์กับพนักงานอย่างเรา ๆ หรือเปล่า? ถูกต้องตามกฎหมายแรงงานหรือไม่ ยิ่งในยุคแห่งโควิด-19 ที่วันลาป่วยต้องหายไปฮวบฮาบจนทำให้หลายคนวันลาป่วยแทบหมด ไม่เหลือให้ป่วยอะไรได้อีก เราเลยอยากชวนมาไขข้อข้องใจเรื่องสิทธิการลาป่วยที่มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราควรได้กันดีกว่า

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์