เรื่องต้องรู้ก่อนยื่นภาษี

เรื่องต้องรู้ก่อนยื่นภาษี



การยื่นภาษีมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าการยื่นภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและครบถ้วน ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนยื่นภาษี:

  1. กำหนดเวลายื่นภาษี:

    • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) ยื่นระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม ของปีถัดไป
    • ภาษีกลางปี (ภ.ง.ด. 94) ยื่นระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน ของปีภาษีนั้น
  2. ประเภทของรายได้:

    • รายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง (ภ.ง.ด. 1)
    • รายได้จากการค้า การทำธุรกิจ (ภ.ง.ด. 50)
    • รายได้จากทรัพย์สิน เช่น ค่าเช่า ดอกเบี้ยเงินฝาก (ภ.ง.ด. 2, 3)
  3. การหักลดหย่อนภาษี:

    • ค่าลดหย่อนส่วนบุคคล
    • ค่าลดหย่อนคู่สมรส
    • ค่าลดหย่อนบุตร
    • ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน
    • ค่าลดหย่อนประกันชีวิต
    • ค่าลดหย่อนเงินบริจาค
    • ค่าลดหย่อนการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ (LTF, RMF)
  4. การเตรียมเอกสาร:

    • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
    • ใบเสร็จรับเงินบริจาค
    • เอกสารรับรองการจ่ายค่าประกันชีวิต
    • เอกสารรับรองการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน
  5. การคำนวณภาษี:

    • ใช้โปรแกรมคำนวณภาษีจากกรมสรรพากร หรือโปรแกรมคำนวณภาษีออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ
    • ตรวจสอบการคำนวณให้ถูกต้องและครบถ้วน
  6. การยื่นภาษีออนไลน์:

    • สามารถยื่นภาษีผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร (e-Filing)
  7. คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ:

    • หากมีข้อสงสัยหรือรายได้ที่ซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่พลาดในการยื่นภาษี
  8. การตรวจสอบสิทธิ์ในการขอคืนภาษี:

    • หากมีการชำระภาษีเกินกว่าที่ต้องชำระจริง สามารถขอคืนภาษีได้ โดยกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มขอคืนภาษีและยื่นพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง

การทำตามขั้นตอนและตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การยื่นภาษีของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและไม่มีปัญหาในภายหลัง

 311
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

การทำบัญชี จะทำให้กิจการทราบผลการดำเนินงานฐานะทางการเงินของธุรกิจและความมั่นคงของธุรกิจโดยในการจัดทำบัญชีของสำนักงานบัญชีนั้นจะบันทึกบัญชีรายการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจ เช่น การลงทุนรายรับ และ รายจ่าย ที่เป็นของกิจการนั้นโดยไม่นำส่วนที่เป็นของส่วนตัว(ส่วนของเจ้าของ) เข้ามาบันทึกด้วยเมื่อมีการบันทึกรายการต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วข้อมูลที่ได้บันทึกไว้นั้นจะสามารถนำมาจัดทำเป็นรายงานทางการเงินได้ เช่น งบดุลและงบกำไรขาดทุนซึ่งเป็นภาพสะท้อนในการดำเนินธุรกิจดังนี้ คือ
ข้อเปรียบเทียบ ระหว่าง นิติบุคคลอาคารชุด กับ นิติบุคคล บริษัทฯ จำกัด มีข้อแตกต่างกันดังนี้
แบบ ภ.พ.30 คือแบบแสดงรายการสรุปภาษีซื้อ-ภาษีขาย เพื่อนำส่งกรมสรรพากร โดยผู้มีหน้าที่จัดทำคือ เจ้าของธุรกิจที่มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี และได้ทำการขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ต้องนำส่งให้กรมสรรพากรทุกเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือสามารถยื่นผ่านทางอินเทอร์เน็ตก็ได้
ในปัจจุบันการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ถือเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงาน เพิ่มการจ้างงาน และส่งเสริมการแข่งขันและนวัตกรรม นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศ รวมไปถึงช่วยให้สร้างโอกาสขยายตลาด และเพิ่มรายได้แบบก้าวกระโดด ดังนั้น การดำเนินธุรกิจนำเข้า-ส่งออกที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
ในปัจจุบันผู้ที่สามารถทำการตรวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ในฐานะผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีได้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
นักลงทุนควรที่ความสำคัญกับการทำความเข้าใจในงบการเงินของกิจการ โดยนักลงทุนจะต้องทราบถึงความสำคัญของงบการเงิน ว่ามีความสำคัญอย่างไร เพราะข้อมูลในงบการเงินของแต่ละกิจการนั้น จะสามารถบ่งชี้ให้เราทราบถึงโอกาสในการลงทุนโดยดูจากข้อมูลภายในงบการเงินนั้นๆ งบการเงินของบริษัท ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนต้องการที่จะกล่าวถึง สาระสำคัญของงบการเงินที่นักลงทุนควรที่จะต้องพิจารณา โดยมีด้วยกันอยู่ 2 รายงาน และ 3 งบ ดังนี้

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์