เคล็ดลับที่ไม่ควรมองข้ามในการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.50

เคล็ดลับที่ไม่ควรมองข้ามในการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.50


Timeline
การยื่นงบการเงินประจำปี

ก่อนไปดูความหมายของ ภ.ง.ด.50 นักบัญชีและเจ้าของกิจการ มาดู Timeline กับการยื่นงบการเงินกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าต้องยื่นงบวันที่เท่าไหร่ ไม่ให้เกินระยะยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อไม่ให้ถูกปรับ และทำการส่งให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และกรมสรรพากร โดยมี Timeline ดังนี้

“บริษัทจำกัด” ที่วันสิ้นรอบปีบัญชี คือ 31 ธันวาคม ของทุกปี จะต้องปิดงบการเงิน, ยื่นงบการเงิน และยื่นภาษีบริษัทประจำปี ภายในวันสุดท้ายดังนี้

  • จัดประชุมผู้ถือหุ้น ภายใน 30 เมษายน  (4 เดือนหลังวันสิ้นรอบบัญชี)
  • ยื่นรายชื่อผู้ถือหุ้น (บ.อ.จ.5) ภายใน 14 พฤษภาคม  (14 วันหลังการประชุม)
  • ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ภายใน 30 พฤษภาคม  (*กรณีตรงกับวันหยุดกรมสรรพากรอาจขยายกำหนดเวลายื่นแบบเป็นวันทำการถัดไป)
  • ยื่นงบการเงิน ภายใน 31 พฤษภาคม  (กรณียื่นออนไลน์ขยายเวลาตามที่กฎหมายกำหนด)

จาก Timeline การยื่นงบการเงินประจำปี จะเห็นได้ว่า ใกล้กันเข้ามาแล้วกับการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50) ที่ต้องยื่นภายใน 30 พฤษภาคม  โดยในบทความนี้ เราจะมากล่าวถึง ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50) ว่ามีความหมายอย่างไร และ มีเคล็ดลับการยื่น ภ.ง.ด.50 อย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้โดนกรมสรรพากรตรวจสอบภายหลัง ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ

ภ.ง.ด.50 หมายถึงอะไร

ภ.ง.ด.50 คือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ต้องส่งให้กับกรมสรรพากรภายใน 150 วัน นับตั้งแต่สิ้นปีการเงินของนิติบุคคล ภายใต้กฎหมายภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามหลักการสรรพากรของประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการหรือผู้จดทะเบียนธุรกิจจะต้องยื่นรายงาน ภ.ง.ด.50 เพื่อดำเนินการเข้าเสียภาษีตามระบบที่กฎหมายกำหนดในทุก ๆ ปี แม้ว่าปีนั้นจะมีการขาดรายได้หรือไม่ได้กำไรตามเป้าที่ตั้งไว้ก็ตาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรมสรรพากรได้ตรวจสอบว่านิติบุคคลได้ปฏิบัติตามกฎหมายภาษีเงินได้หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการคำนวณภาษีเงินได้ของนิติบุคคลว่าถูกต้องหรือไม่ การยื่น ภ.ง.ด.50 เป็นการตรวจสอบและกำกับดูแลทางภาษีเพื่อป้องกันการขาดชำระภาษีเงินได้ของนิติบุคคลในอนาคต

เคล็ดลับที่ไม่ควรมองข้ามในการยื่น ภงด 50 ยื่นอย่างไรให้ถูกต้อง

  • ตรวจสอบช่องที่จะต้องกรอกข้อมูลภายใน ภ.ง.ด.50 ให้ถูกต้อง เนื่องจากจำนวนช่องในแบบฟอร์มมีจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้
  • ควรกรอกรายได้เกี่ยวกับการเงินต่างๆให้ชัดเจน เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
  • ไม่ควรใส่ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือหน่วยงานของตน ควรใส่เฉพาะข้อมูลที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการชำระภาษีเงินได้ที่ตนเองต้องการจะส่งเท่านั้น เพื่อไม่ให้ถูกเรียกตรวจสอบภายหลัง
  • หากไม่มีความจำเป็น อย่ายื่นคำร้องขอคืนภาษี เพราะถ้าหากหน่วยงานหรือองค์กรของตน ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ที่สามารถยืนยันได้ว่าตนเองถูกต้อง อาจจะทำกรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูลทางการบัญชีย้อนหลังได้ และหากสรรพากรพบว่ามีความผิดอาจถูกเบี้ยปรับในมูลค่าที่สูงกว่าภาษีที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆก็ได้
  • ผู้ยื่นควรตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลให้จบภายในรอบเดียว ไม่ควรยื่นหลายครั้ง เพราะอาจทำให้องค์กรถูกตรวจสอบข้อมูลทางการบัญชีได้
  • การเลือกเจ้าหน้าที่ในการยื่นเอกสาร ภ.ง.ด.50 นั้น ควรเลือกบุคคลที่มีความสามารถในการจัดเก็บเอกสารต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ มีความใส่ใจในงานที่ตนได้รับมอบหมายได้อย่างละเอียด สามารถประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้ราบรื่นมากที่สุด ที่สำคัญควรมีความรู้ทางด้านงานบัญชี เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการทำหน้าที่

หากยื่น ภ.ง.ด.50 เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ต้องชำระค่าปรับและเงินเพิ่ม ดังนี้

  1. ค่าปรับ : ค่าปรับแบบไม่เกิน 2,000 บาท + ค่าปรับงบการเงิน ไม่เกิน 2,000 บาท (รวมเป็นไม่เกิน 4,000 บาท)
  2. เงินเพิ่ม (กรณีมีภาษีต้องชำระ) ร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน ของเงินภาษีที่ต้องเสีย

สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ ภ.ง.ด.50 เพิ่มเติมได้ที่

    • วิธียื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ผ่านอินเทอร์เน็ต www.rd.go.th
    • แบบฟอร์ม ภ.ง.ด.50 www.rd.go.th
     39
    ผู้เข้าชม

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    ประเทศไทยได้เริ่มจัดทำอนุสัญญา ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2505  กับประเทศสวีเดน และได้มีการเจรจาทำอนุสัญญากับต่างประเทศเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยโครงสร้างทั่วๆ ไป ของอนุสัญญาประกอบด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
    ภ.พ.36 คือ แบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามประมวลรัษฎากร ใช้เมื่อได้จ่ายเงินค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร ฯ
    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย ทั้งจากผู้ประกอบการ และนักบัญชีเองนั้นมีมากมายหลากหลายคำถาม ในบทความนี้ เราได้สำรวจและรวบรวม 5 คำถามยอดฮิต พร้อมคำตอบมาให้เพื่อนๆ กันค่ะ คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่ว่านั้น จะมีเรื่องอะไรบ้างลองไปดูกันค่ะ
    การปิดบัญชี คือ การทำให้ตัวเลขในบัญชีตรงกับความเป็นจริง บัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายจะถูกปิดยอดคงเหลือ โอนไปบัญชีกำไรขาดทุน และยอดคงเหลือของบัญชีกำไรขาดทุนจะโอนไปยังบัญชีทุนพร้อมๆ กับยอดคงเหลือของบัญชี ถอนใช้ส่วนตัว  กิจการสามารถพิสูจน์ความถูกต้องของยอดคงเหลือจากบัญชีแยกประเภทได้โดยการทำงบทดลอง หลังปิดบัญชี  
    หมายเหตุประกอบงบการเงิน คือ รายการที่แสดงรายละเอียดเพิ่มเติมจากงบการเงิน เช่น  นโยบายการทำบัญชีและเกณฑ์การจัดทำงบการเงิน ข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ได้แสดงอยู่ในงบการเงิน  นโยบายการทำบัญชี เป็นสิ่งที่ทำให้งบการเงินของแต่ล่ะกิจการมีความแตกต่างกันดังนั้นผู้ใช้งาน งบการเงินจะต้องอ่านก่อนว่ากิจการนั้น ใช้เกณฑ์การจัดทำงบการเงิน แบบใดก่อนที่จะอ่านงบการเงิน
    ก่อนจะมาเป็น “หนี้สูญ” ต้องผ่านการบันทึกบัญชีลูกหนี้มาก่อน ซึ่งเกิดจากการขายที่ให้เครดิตแก่ลูกหนี้ ที่เรียกกันทั่วไปคือการขายเชื่อ หรืออาจเป็นการขายผ่อนชำระ รวมถึงการรับชำระเป็นงวด ๆ ในลักษณะการเช่าซื้อหรือลีสซิ่ง นอกจากลูกหนี้ที่เกิดจากการค้าแล้วอาจมีลูกหนี้ในลักษณะอื่น ๆ ทั้งนี้ กิจการที่มีลูกหนี้ย่อมมีสิทธิในการเรียกให้ลูกหนี้นั้นชำระเงินตามมูลหนี้ที่เกิดขึ้นตามที่ได้ตกลงกันไว้

    สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์