ปิดงบการเงินอย่างมืออาชีพ เรื่องที่นักบัญชีและเจ้าของธุรกิจควรรู้

ปิดงบการเงินอย่างมืออาชีพ เรื่องที่นักบัญชีและเจ้าของธุรกิจควรรู้

การปิดงบการเงินคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อธรุกิจ

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักคำว่า “ปิดงบการเงิน” เรามาดูความหมายของ "งบการเงิน" ก่อนค่ะว่าหมายถึงอะไร



งบการเงิน (Financial statement) หมายถึง รายงานทางการเงินที่แสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ณ วันสิ้นงวดบัญชี สำหรับธุรกิจทั่วไปมักจะปิดงบการเงินปีละหนึ่งครั้ง แต่สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจะปิดงบการเงินทุก 3 เดือน ส่วนประกอบของงบการเงินที่สมบูรณ์จะประกอบไปด้วย 5 ส่วนนี้คือ

  1. งบแสดงฐานะทางการเงินหรืองบดุล (Balance Sheet)
  2. งบกำไรขาดทุน (Profit and Loss Statement)
  3. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเจ้าของ (Statement of changes in owner’s equity)
  4. งบกระแสเงินสด ( Cash Flow statement)
  5. หมายเหตุประกอบงบการเงิน (Note to Financial Statement)

การปิดงบการเงิน หมายถึง กระบวนการที่บริษัทหรือองค์กรต่างๆ ใช้เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและสถานะการเงินขององค์กรในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงิน (งบดุล) งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น โดยหลังจากที่กิจการทำงบการเงินแล้ว จะต้องมีการปิดงบการเงิน เมื่อสิ้นรอบบัญชี เพื่อส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสรรพากรตามที่กฎหมายกำหนด เป็นการรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลการเงิน เช่น รายได้ รายจ่าย สินทรัพย์ หนี้สิน และภาวะการเงินอื่นๆ ขององค์กร

โดยผู้ที่มีหน้าที่ปิดงบการเงินคือนักบัญชีหรือสำนักงานบัญชี เพราะต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถและผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องของการทำบัญชี ให้สามารถจัดส่งงบการเงินตามกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงโทษปรับหากไม่ทำการส่งงบการเงิน

6 ขั้นตอน ในการปิดงบการเงิน รู้ไว้ไม่ควรพลาด

การปิดงบการเงินมีหลายขั้นตอน ซึ่งรวมถึงการบันทึกข้อมูลการเงินทั้งหมดลงในระบบบัญชี การตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้อง การสร้างรายงานทางการเงิน เช่น งบทดลอง งบการเงินสรุป รายงานการเงินอื่นๆ และการเตรียมเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถแบ่งออกได้ 6 ขั้นตอน คือ



1. รวบรวมเอกสารข้อมูลการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับรายการบัญชีต่างๆ ทั้งบิลขายและบิลซื้อ โดยจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่ เรียงตามบิลของบริษัท ตามลำดับเลขที่เอกสาร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และง่ายต่อการสรุปยอดบัญชี
2. กรณีที่กิจการเป็นบริษัทที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT จะต้องมีรายงานภาษีซื้อ-ขายให้ครบถ้วน โดยต้องนำเอกสารใบกำกับภาษีซื้อ-ขายแนบมาพร้อมกับรายงานภาษีซื้อ-ขาย เพื่อยื่นเอกสารตามที่กำหนดไว้ให้ครบถ้วน
3. ตรวจสอบรายการเดินบัญชี หรือ Bank Statement ของบริษัทในแต่ละเดือน ว่ามีเอกสารครบถ้วนหรือไม่ หากขาดเดือนไหนไป ให้ขอรายการเดินบัญชีจากธนาคาร เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจสอบ
4. เมื่อได้เตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการติดต่อสำนักงานบัญชี ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อให้จัดทำบัญชีงบการเงินให้ แต่หากกิจการมีเจ้าหน้าที่บัญชีอยู่แล้วก็สามารถจัดทำงบการเงินได้เลย
5. เมื่อปิดงบการเงินเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้รวบรวมเอกสารจากการปิดงบการเงินในแต่ละรอบบัญชีให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น สมุดรายวันแยกประเภท (G/L) ทะเบียนทรัพย์สิน สมุดรายวันรับ สมุดรายวันจ่าย สมุดรายวันทั่วไป เป็นข้อมูลจัดเก็บสำหรับกิจการต่อไป ไม่น้อยกว่า 5 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด
6. ส่งงบการเงินให้แก่กรมพัฒนาธรกิจการค้า และกรมกสรรพากรภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี

คุณสมบัติของระบบ Financial Management ในโปรแกรมบัญชี Prosoft WINSpeed

โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป Prosoft WINSpeed มีระบบ Financial Management ที่ช่วยจัดการงบการเงินได้อย่างมืประสิทธิภาพ ที่สามารถสร้างงบการเงินได้ ทั้งงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด หมายเหตุประกอบงบการเงิน เพื่อช่วยให้นักบัญชีและเจ้าของธุรกิจสามารถจัดการงงบการเงิน รวมไปถึงงานด้านบัญชีต่างๆ ที่ครอบคลุมทุกเรื่องของงานบัญชี เทียบเท่ากับโปรแกรม ERP นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การจัดการงานด้าน เอกสาร, การขาย, การจัดซื้อ, สต๊อกสินค้า, ไปจนถึงบัญชี, การเงิน, และงานทางด้านภาษี ที่ใช้ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

  • สามารถประมาณการรายรับได้จาก ใบสั่งขาย, บันทึกขาย, ใบวางบิล
  • สามารถประมาณการรายจ่ายได้จาก ใบสั่งซื้อ, บันทึกซื้อ
  • สามารถดูรายงานเปรียบเทียบประมาณการรายรับ-รายจ่ายได้จาก
    • ใบสั่งขายเปรียบเทียบกับใบสั่งซื้อ
    • บันทึกขายเปรียบเทียบกับบันทึกซื้อ
  • สามารถดูรายงานเปรียบเทียบประมาณการเช็ครับ-เช็คจ่าย
  • สามารถดูกราฟเปรียบเทียบประมาณการเช็ครับ-เช็คจ่าย
  • สามารถดูประมาณการ Statement ของเช็คได้ เพื่อดูยอดเงินในอนาคต ณ วันที่เรียกดูรายงาน
  • สามารถสร้างงบการเงินได้ตามต้องการ เช่น งบดุล, งบกำไรขาดทุน,งบกระแสเงินสด, หมายเหตุประกอบงบการเงิน

วิธีการสร้างงบการเงินต่างๆ ในโปรแกรมบัญชี Prosoft WINSpeed อ่านเพิ่มเติม
 

1.สร้างงบดุล แบบเปรียบเทียบ รายเดือน รายปี
2.สร้างงบกำไรขาดทุน แบบเปรียบเทียบ รายเดือน รายปี
3.สร้างงบกระแสเงินสด
4.หมายเหตุประกอบงบการเงิน


ข้อดีของการปิดงบการเงิน

การปิดงบการเงินเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร เพราะช่วยให้ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องสามารถประเมินผลการดำเนินงานและสถานะการเงินขององค์กรได้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจต่างๆ ได้ในอนาคต

1. ช่วยให้ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นได้มองเห็นสถานะการเงินปัจจุบันขององค์กร ทั้งรายรับ-รายจ่ายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการบันทึกทรัพยากรทางการเงินอื่น ๆ ที่มีอยู่ เช่น เงินสด หนี้สิน และทรัพย์สิน ช่วยให้ผู้บริหารนำข้อมูลที่ได้มาช่วยตัดสินใจในกิจกรรมทางธุรกิจในอนาคตได้ เช่น การลงทุนใหม่หรือการส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ
2. สามารถประเมินความสามารถในการชำระหนี้ขององค์กร ผู้ลงทุนหรือเจ้าของกิจการสามารถใช้ข้อมูลในงบการเงินเพื่อประเมินความเสี่ยงทางการเงินและความน่าเชื่อถือขององค์กรเมื่อเข้าร่วมหรือลงทุนในองค์กรต่างๆ
3. การปิดงบการเงินเป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการทางการเงิน ซึ่งส่งผลให้เจ้าของกิจการสามารถรู้กำไรขาดทุน ที่เป็นข้อมูลสำคัญ ช่วยบริหารจัดการองค์กรและจัดการทรัพยากรทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ
4. ช่วยให้สามารถระบุและประเมินความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในองค์กร ตัวชี้วัดทางการเงิน เช่น สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของทุนเอกสารหนี้ที่ครอบครอง และอื่น ๆ จะช่วยในการระบุและจัดการความเสี่ยงทางการเงินเพื่อสร้างความเสถียรในองค์กร

ที่มา : inflowaccount.co.th

 587
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ภาษีป้ายเป็นภาษีซึ่งองค์กรปกครองท้องถิ่นมีหน้าที่ในการจัดเก็บ  เพื่อหารายได้มาพัฒนาท้องถิ่นของตน  โดยจัดเก็บจากป้ายแสดงชื่อยี่ห้อ หรือเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะแสดงโฆษณาไว้ที่วัตถุใดๆ ด้วยอักษรภาพหรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลักจารึก หรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่นๆ 
การทำบัญชีถือเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจ เพราะบัญชีจะทำให้คุณทราบที่มาที่ไปของเงินในแต่ละส่วน มองเห็นผลกำไร ขาดทุนได้อย่างชัดเจนและที่สำคัญการทำบัญชียังช่วยลดการเกิดทุจริตภายในกิจการ สามารถทำการตรวจสอบย้อนข้อมูลทางการเงินหลังได้บริษัทส่วนใหญ่จึงทำการจ้างนักบัญชีเข้ามาทำงานในส่วนนี้ เพื่อความถูกต้อง
วงจรบัญชี (Accounting Cycle) คือกระบวนการทั้งหมดที่ใช้ในการบันทึกและจัดทำรายงานทางการเงินของธุรกิจในรอบระยะเวลาหนึ่ง (มักเป็นรายเดือนหรือรายปี) เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินถูกต้อง ครบถ้วน และตรวจสอบได้
นักบัญชีเป็นวิชาชีพเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจแบบแยกออกจากกันไม่ได้ ธุรกิจที่เป็นนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเป็นต้องมี “ผู้ทำบัญชี”ที่รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีของธุรกิจ เพื่อให้มีการแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของธุรกิจที่เป็นอยู่ตามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการบัญชี พระราชบัญญัติการบัญชีจึงได้มีการกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ทำบัญชีไว้ชัดเจน โดยมีการแบ่งแยกหน้าที่และความรับผิดชอบกับผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี และผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหรือธุรกิจ ต้องจัดให้มีผู้ทำบัญชีซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกำหนด ดังนี้
VES หรือ VAT for Electronic Service เป็นระบบที่กรมสรรพากรได้จัดทําขึ้นเพื่ออํานวยความสะดวกให้กับธุรกิจไอทีข้ามชาติที่ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศ ซึ่งต้องมาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร ให้สามารถทําธุรกรรมภาษีผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั้งหมด ตั้งแต่การจดทะเบียน การยื่นแบบการชําระภาษี การจัดทําเอกสาร การรับเอกสาร และการส่งเอกสาร ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
การยื่นภาษีมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าการยื่นภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและครบถ้วน ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนยื่นภาษี

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์