งบการเงินบอกอะไรของบริษัทบ้าง

งบการเงินบอกอะไรของบริษัทบ้าง

งบการเงินคือรายงานทางการเงินและบัญชี ที่แสดงให้เห็นสถานะการดำเนินงานของกิจการ ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงิน (งบดุล) งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น
นอกจากที่ กิจการมีหน้าที่ต้องจัดทำงบการเงินเพื่อส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรพร้อมยื่นแบบภาษีเป็นประจำทุกปีแล้ว กิจการยังสามารถนำข้อมูลมาใช้เพื่อช่วยในการตัดสินใจ และวางแผนการดำเนินกิจการได้หลายอย่าง โดย งบการเงิน ประกอบไปด้วย 4 งบหลัก และข้อมูลประกอบ ดังนี้

1.งบแสดงฐานะการเงิน  

งบแสดงฐานะการเงิน จะทำให้เห็นว่าภาพรวมของกิจการ มีฐานะการเงิน สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของทุนรวมถึงให้ข้อมูลถึงประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ ของกิจการได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ โดยงบนี้จะบอกสถานะการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่ง เช่น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2021

นอกจากกิจการจะเห็นข้อมูลจาก งบการเงิน นี้ ยังมีบุคคลอื่นที่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลในงบแสดงฐานะการเงินเช่นกัน เช่น Supplier ของกิจการ อาจใช้งบการเงินเพื่อวิเคราะห์ว่ากิจการจะสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่   ลูกค้าของกิจการ สามารถดูข้อมูลพิจารณาความหน้าเชื่อถือก่อนเซ็นสัญญาซื้อขาย หรือ ธนาคาร อาจใช้ข้อมูลในงบเพื่อพิจารณาก่อนการปล่อยสินเชื่อเงินกู้

2.งบกำไรขาดทุน

งบกำไรขาดทุน แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการ ความสามารถในการทำกำไร รวมทั้งโครงสร้างรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการเป็นอย่างไรในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง (โดยปกติทุกๆ 1 ปีตามรอบระยะเวลาบัญชีของกิจการ) โดยกิจการสามารถใช้งบนี้เพื่อให้ผู้บริหารกิจการนำข้อมูลไปวิเคราะห์ใช้ในการตัดสินใจวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคต

และที่สำคัญคือ งบกำไรขาดทุนทำให้กิจการทราบตัวเลขเพื่อใช้คำนวณภาษีที่ต้องยื่นแก่สรรพากร อีกทั้งเมื่อทราบภาษีที่ต้องเสียแล้ว ก็จะทำให้เจ้าของกิจการสามารถวางแผนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ถูกต้อง และประหยัดภาษีได้มากยิ่งขึ้น

3.งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น

งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น จะทำให้เห็นยอดเงินทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงปลายปีนั้นๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากอะไรบ้าง  เช่น ทุนชำระแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุน หรือลดลงจากการลดทุน กำไรสะสมของกิจการเพิ่มขึ้นด้วยกำไรสุทธิ หรือลดลงด้วยการจ่ายเงินปันผล ซึ่งสามารถทำให้เจ้าของกิจการ ผู้ถือหุ้น เตรียมพร้อมตั้งรับกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้ รวมถึงสามารถคาดการณ์ถึงเงินปันผลที่จะได้รับด้วย

4.งบกระแสเงินสด

งบกระแสเงินสด จะทำให้เห็นที่มาที่ไปของกระแสเงินสด ว่าเพิ่มขึ้น หรือลดลงจากรายการใดบ้าง เช่นมาจากกิจกรรมดำเนินงานปกติ การลงทุน การกู้ยืม หรือชำระเงินคืนกู้ ซึ่งการจัดทำงบกระแสเงินสดจะช่วยให้เจ้าของกิจการวางแผนการใช้เงินได้ดีมากขึ้น และทำให้ทราบถึงสภาพคล่องในการดำเนินงาน เพื่อนำไปใช้วางแผนการใช้จ่ายของกิจการได้

และนอกจากงบกระแสเงินสด จะแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงกระแสเงินสดของกิจการ ว่ามีการได้มาและใช้ไปอย่างไรแล้ว ยังเป็นงบที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการ ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการเงินสดของกิจการ การวางแผนการตัดสินใจทางด้านการเงินในอนาคตของกิจการอีกด้วย

หมายเหตุประกอบงบการเงิน

หมายเหตุประกอบงบการเงิน เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้อ่านงบ ไม่ได้เห็นจากใน  งบการเงิน แต่เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่จะทำให้เห็นรายละเอียดของรายการในงบการเงิน นโยบายการทำบัญชีที่กิจการใช้ เช่น วิธีการรับรู้รายได้ วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา รวมทั้งภาระผูกพันในอนาคต ความคืบหน้าคดีความฟ้องร้อง ซึ่งหมายเหตุประกอบงบการเงิน จะช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถวางแผนและตัดสินใจได้ในหลายๆ เรื่อง เช่น

          – วางแผนสำหรับลูกหนี้การค้า หากลูกหนี้การค้ามากแสดงว่ากิจการขายสินค้าและบริการได้ดี แต่หากลูกหนี้การค้ามีมากจนผิดสังเกต อาจแสดงว่าลูกหนี้ของกิจการ ขาดสภาพคล่องในการชำระหนี้ หรือหมายถึงกิจการขายได้ดี แต่ไม่สามารถเก็บหนี้ได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อกิจการอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าของกิจการต้องมีการวางแผนเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า

– กรณีกิจการมีคดี ที่ถูกฟ้องร้องและอาจจะภาระในอนาคตที่ต้องจ่าย แต่หากคดีความยังไม่สิ้นสุด ข้อมูลนี้จะยังไม่ถูกรวมอยู่ในงบการเงิน ดังนั้นผู้ที่อ่าน งบการเงิน จะสามารถเห็นข้อมูลส่วนนี้ได้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน

– บอกถึงข้อมูล การเปลี่ยนแปลงนโยบายการตัดค่าเสื่อมราคา ซึ่งทำให้กิจการมีตัวเลขผลกำไรเพิ่มขึ้นมากในรอบบัญชีนั้น แต่ไม่ใช่กำไรที่ได้มาจากการดำเนินงาน

เมื่อมาถึงตรงนี้เชื่อว่าทุกกิจการ อาจพอมองเห็นแล้วว่าประโยชน์ของการทำงบการเงินมีอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเรื่องของข้อมูลแต่ละงบในแง่ที่แตกต่างกัน การนำข้อมูลงบการเงินเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจ และวางแผนดำเนินกิจการในอนาคต จะช่วยให้เจ้าของกิจการบริหารจัดการงานของตนเองให้ดำเนินการต่อไปได้อย่างไม่สะดุด ซึ่งหากกิจการไม่มีทีมงาน หรือพนักงานฝ่ายบัญชี กิจการสามารถเลือกใช้บริการสำนักงานบัญชีเพื่อบันทึกบัญชี และจัดทำงบการเงิน รวมถึง ตรวจสอบงบการเงินเพื่อให้มั่นใจว่ากิจการมีข้อมูลงบการเงิน ที่ถูกต้อง ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมนั่นเองค่ะ

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!!



ขอบคุณที่มา : inflowaccount.co.th

 598
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

สิ่งสำคัญของธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ผู้บริหารและเจ้าของกิจการที่ไม่ใช่นักการบัญชี อาจมองถึงผลกำไรของธุรกิจส่วนใหญ่เกิดจากการบริหารด้านการตลาดซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่หากไม่มีข้อมูลตัวเลขจากการจัดทำบัญชี ก็คงไม่สามารถวิเคราะห์และนำมาพิจารณาเพื่อจะนำไปบริหารเพื่อเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจได้อย่างเหมาะสม  เรามีคำแนะนำ 10 ข้อในการเลือกสำนักงานบัญชีบริการรับทำบัญชีมาให้เป็นแนวทางดังนี้ 
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คือ เอกสารหลักฐานสำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องจัดทำและออกให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือบริการทุกครั้งที่มีการขายสินค้าหรือบริการ เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการในแต่ละครั้ง
เรามาดูตัวอย่างง่ายๆ กันว่า ประเด็นต่างๆเหล่านี้ มีอยู่ในงบการเงินของท่านหรือไม่
เราไปดูกันว่า 7 ทักษะ Soft skills ที่นักวิชาชีพตรวจสอบบัญชี (Auditor) ควรมีนั้น มีอะไรบ้าง
หลักฐานที่แสดงถึงการปฏิบัติงานตรวจสอบและรับรองบัญชี  หลักฐานที่ได้รับจากการปฏิบัติงานตรวจสอบและรับรองบัญชี และสิ่งที่ตรวจพบจากการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีภาษีอากร  ซึ่งได้แก่ เอกสารที่ผู้สอบบัญชีภาษีอากรได้จัดทำขึ้นเอง  เอกสารที่ได้รับมาจากกิจการที่ทำการตรวจสอบ  หรือที่ขอจากบุคคลภายนอกกิจการ ทั้งนี้ เพื่อใช้ในการจัดทำรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชี
เมื่อกล่าวถึงการเช่าทรัพย์หรือสัญญาเช่าทรัพย์แล้ว ท่านผู้อ่านหลายท่านที่คลุกคลีอยู่กับวงการภาษีอากรคงจะคุ้นเคยกันเป็นประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากรอย่างดีทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากรนั้นมีหลากหลายมากมายจนอาจกล่าวได้ว่าจำกันไม่ไหวเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีไม่ว่าประเด็นปัญหาดังกล่าวกรมสรรพากรจะได้มีการวางแนววินิจฉัยไว้แล้วเพียงใดก็ตาม แต่ก็พบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องก็ยังคงประสบกับปัญหาต่างๆ กันอยู่ไม่น้อย อาจเนื่องมาจากยังขาดความรู้ความเข้าใจในทางปฏิบัติเกี่ยวกับเอกเทศสัญญาเกี่ยวกับเช่าทรัพย์ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรืออาจมีความเข้าใจในประเด็นปัญหาภาษีอากรที่คลาดเคลื่อนไปรวมทั้งในทางปฏิบัติมีการใช้คำว่า “เช่า” ให้ครอบคลุมไปถึงธุรกรรมอื่นที่ไม่ใช่ “เช่า” ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น การเช่าพระเครื่อง การเช่าชั่วโมงอินเทอร์เน็ต การเช่าพื้นที่เพื่อแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าต่างๆ เป็นผลทำให้ความเข้าใจในเรื่องของภาษีอากรเกี่ยวกับเอกเทศสัญญาที่เรียกว่า “เช่าทรัพย์” นั้นคลาดเคลื่อนไปด้วย ผู้เขียนจึงได้รวบรวมเอาเรื่องราวอันเกี่ยวกับการเช่าทรัพย์ ทั้งในด้านความเป็นเอกเทศสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และในด้านของภาษีอากร ไม่ว่าจะเป็นกรณีการมีรายได้จากการให้เช่าทรัพย์ว่าจะต้องมีภาระภาษีอะไรบ้าง เช่น จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างไร ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และสัญญาเช้าที่ทำกันนั้นต้องติดอากรแสตมป์อย่างไรหรือไม่ รวมทั้งกรณีที่ผู้เช่าได้จ่ายค่าเช่าไปในบางกรณีว่าจะลงเป็นรายจ่ายทางภาษี หรือนำภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้น (ถ้ามี) ไปใช้ได้หรือไม่อย่างไร

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์