สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ !! ก่อนย้ายไปใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ !! ก่อนย้ายไปใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการทำงานในธุรกิจเป็นอย่างมาก และยังมีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีมาก งานบัญชีถือเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ ที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารเห็นภาพรวมของธุรกิจ ชี้วัดสุขภาพทางการเงินขององค์กร ว่ามีกำไรขาดทุนมากน้อยเพียงใด ในยุคที่การตัดสินใจของลูกค้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำบัญชีบนกระดาษที่ใช้เอกสารจำนวนมากอาจทำให้ไม่ทันความต้องการ การมีเครื่องมือในการทำบัญชีเป็นตัวช่วยให้งานบัญชี รวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมาก

ปัจจัยที่ธุรกิจควรคำนึงถึง ในการเลือกโปรแกรมบัญชีออนไลน์

1. วิเคราะห์ทรัพยากรของธุรกิจ
ดูความพร้อมของธุรกิจในด้านทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ , Web Hosting ,Server , Cloud Computing ที่รองรับการทำงานแต่ละซอฟต์แวร์

2.ระบบบัญชีต้องมีความน่าเชื่อถือ

ในการตัดสินใจเลือกใช้ซอฟท์แวร์บัญชีออนไลน์ ควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมสรรพากร เพื่อป้องกันปัญหาการทำบัญชีไม่ถูกต้องตามสรรพากรกำหนด

3. ราคามีความเหมาะสม
ควรเลือกซอฟต์แวร์ที่มีราคาเหมาะสมกับฟังชั่นที่ได้รับ เพื่อให้การทำบัญชีได้อย่างครบถ้วน

4.คำนึงถึงความปลอยภัยของข้อมูล
ข้อมูลด้านการเงินของธุรกิจถือมีความสำคัญมาก หากข้อมูลรั่วไหลไปยังคู่แข่งหรือผู้ไม่ประสงค์ดี ธุรกิจอาจได้รับความเสียหาย ควรมีติดตั้งซอฟต์แวร์และฐานข้อมูลบนเครื่อง Serverขององค์กร ช่วยให้คุณจัดการและดูแลความปลอดภัยของข้อมูลได้เอง หรือจัดเก็บข้อมูลไว้บนระบบ Cloud Computing ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย

5.ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
การทำบัญชีถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน หากซอฟต์แวร์ใช้งานยากและซับซ้อนหลายขั้นตอน อาจทำให้การทำบัญชีมีโอกาสผิดพลาดได้สูงหรือส่งเอกสารให้ผู้บริหารได้ช้าลง

6.ซอฟต์แวร์ต้องเข้ากับธุรกิจ
ซอฟต์แวร์ต้องสสามารถตอบสนองการทำงานบัญชีของธุรกิจได้อย่างครบถ้วน มีฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์ในการทำบัญชีรอบด้าน

7.สำรวจความพร้อมของบุคลากร
ในการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้ในธุรกิจ บุลคลกรภายในองค์กรควรมีความพร้อมและยอมรับกระบวนการทำงานที่จะเกิดขึ้น ถ้าพนักงานไม่มีความพร้อมอาจทำให้การทำบัญชีลาช้า และมีข้อผิดพลาดได้

 44
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ชื่อว่านักบัญชีก็คือผู้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตามข้อกำหนดของหน่วยงานควบคุมการประกอบอาชีพทางด้านวิชาบัญชี นักบัญชี ก็ไม่ใช่นักกฎหมาย แต่การทำงานทั้งหมดมีกฎหมายกำกับทั้งสิ้น เคยมีคำกล่าวของท่านผู้รู้ในอดีตกล่าวเปรียบเทียบระหว่างนักกฎหมายกับนักบัญชีไว้ว่า
ในยุคที่กรมสรรพากร ได้มีการบริหารภายใต้นโยบายปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการจัดเก็บภาษีและยกระดับการให้บริการด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการบริหารการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรทุกกระบวนงาน หรือที่เรียกว่า “RD Digital Government – Data Analytics” และนำมาสู่แนวคิดเรื่อง “บัญชีเดียว” ของผู้ประกอบธุรกิจ ส่งผลให้มีการกล่าวถึง “นักบัญชีภาษีอากร” ซึ่งจะเป็นผู้ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเสียภาษีได้ถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น
ตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร หากบุคคลใดมีภาษีอากรค้าง กรมสรรพากรสามารถยึดหรืออายัดทรัพย์และขายทอดตลาดได้เลยโดยยังไม่ต้องฟ้องต่อศาลก่อนก็ได้  และระยะเวลาที่มีอํานาจทําได้ก็เป็นเวลานานถึง 10 ปี
e Invoice และ e Tax invoice ถือว่าเป็นสองคำที่หลาย ๆ คนคุ้นหู วันนี้เราจะมาเจาะข้อสงสัยว่าสองคำนี้คืออะไร มีความหมายว่าอย่างไร และใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง 
ปัจจุบันเราเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือยุค AEC ภาษาอังกฤษจึงถือเป็นภาษาหลักและกลายเป็นวิชาบังคับในหลายสถาบันการศึกษา ด้วยความหลากหลายทางธุรกิจและเชื้อชาติในการทำงานร่วมกันการสื่อสารจึงจำเป็นอย่างมาก
ผู้ใช้ข้อมูลทางการบัญชีมีหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารกิจการ เจ้าหนี้ นักลงทุน หน่วยงานของรัฐบาล หรืออื่น ๆ ซึ่งในบางครั้งบุคคลที่ใช้ข้อมูลทางการบัญชีเหล่านี้มีความต้องการที่จะใช้ข้อมูลทางการบัญชีในทิศทางที่แตกต่างกัน เช่น ผู้บริหารต้องการแสดงผลการดำเนินงานที่มีกำไรน้อยกว่าความเป็นจริงหรือขาดทุน เพื่อที่จะได้เสียภาษีน้อยลง หรือไม่เสียภาษีเลย ในทางตรงกันข้ามกรมสรรพากรซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีก็ต้องการให้แสดงข้อมูลตามความเป็นจริง เพื่อจะได้จัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง รัฐบาลจะได้นำเงินมาพัฒนาประเทศต่อไป

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์